การโค้ชผู้บริหาร โดยใช้กระบวนการโค้ชและยึดหลักจรรยาบรรณของโค้ช ICF เป็นจุดแข็งที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าองค์กรทั่วโลก: โค้ชบี ขนิษฐา สถาบัน BE Management Coach
สวัสดีเทศกาลเข้าพรรษานะคะ เป็นอีกช่วงเวลานึงของปีที่คนไทยหลายคนตั้งใจทำสิ่งดีๆ ในช่วง 3 เดือนนี้ เช่น งดเว้นการดื่มสุรา งดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เข้าวัดทำบุญปฏิบัติธรรม ฯลฯ หรือแค่เพียงคิดดี พูดดี ทำดี แบบนี้ก็เป็นบุญแล้วนะคะ
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ปีนี้เป็นอีกปีนึงที่บีมีงานโค้ชผู้บริหารเข้ามาพอสมควร มีลูกค้าองค์กรใหม่ๆ ติดต่อเข้ามา พอได้พูดคุยก็ได้ทราบว่า หลายองค์กรเริ่มตื่นตัวกับเครื่องมือการโค้ช เพราะได้เริ่มทำไปบ้างแล้ว และเห็นผลลัพธ์ในทางบวกที่ชัดเจนกว่าการพัฒนารูปแบบอื่น เช่น การฝึกอบรมแบบ Classroom มากมายหลายเท่า ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
ในการทำงานโค้ชผู้บริหาร ส่วนใหญ่เราจะทำสัญญากับลูกค้าองค์กรในรูปแบบแพคเกจ เช่น โค้ชแบบตัวต่อตัว จำนวน 12 ครั้งภายใน 6 เดือน แต่ละครั้งใช้ระยะเวลา 1.5 ชั่วโมง โดยในสัญญา จำเป็นต้องระบุรายละเอียดงานโครงการ ขั้นตอน เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมถึงเงื่อนไขในสัญญาตามมาตรฐานการทำสัญญาธุรกิจโดยทั่วไป เช่น ราคา งวดการชำระเงิน สิทธิ์ในการยกเลิกสัญญา เป็นต้น และเนื่องจากผู้บริหารที่เป็นผู้รับการโค้ช อาจจำเป็นที่จะต้องพูดคุยความลับทางธุรกิจ และการตัดสินใจต่างๆ ให้แก่โค้ชได้รับฟัง เราจึงต้องทำให้องค์กรลูกค้าและผู้รับการโค้ช สบายใจในเรื่องนี้ค่ะ ซึ่งเรื่องจรรยาบรรณของโค้ชที่ได้รับการรับรองโดย ICF นี้ เป็นจุดแข็งที่เป็นที่รับทราบกันดี และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าองค์กรทั่วโลกค่ะ
กรอบวัตถุประสงค์การโค้ช ควรกำหนดขึ้นโดยองค์กรลูกค้าผู้จ้างโค้ช (เราเรียกว่า Sponsor) และแจ้งให้ทั้งโค้ชและผู้รับการโค้ช ได้รับทราบ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดเป้าหมายการโค้ชของแต่ละคนต่อไป โดยเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงในการโค้ช อาจกำหนดขึ้นได้หลายวิธี เช่น
- ในช่วงก่อนเริ่มการโค้ช โค้ชอาจทำการประเมิน 360 องศา คือ สอบถามฟี้ดแบ็คของคนรอบตัวที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้รับการโค้ช ได้แก่ หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกัน และคู่ค้าภายนอก (หากทำได้) เพื่อนำผลมาพูดคุยกับผู้รับการโค้ช เพื่อกำหนดเป้าหมายการโค้ช
- ใช้ผลการประเมิน 360 องศา ตามที่องค์กรลูกค้าได้ทำอยู่แล้ว เพื่อนำผลมาพูดคุยกับผู้รับการโค้ช เพื่อกำหนดเป้าหมายการโค้ช
- ผู้รับการโค้ช กำหนดเป้าหมายการโค้ชขึ้นเอง โดยเชื่อมโยงกับแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan หรือ IDP) ของตนเอง
เมื่อกำหนดเป้าหมายการโค้ชได้แล้ว ในแต่ละครั้ง (Session) ก็จะมีการตั้งเป้าหมายย่อย หรือ Session Goal ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการโค้ชหลักที่กำหนดไว้ และดำเนินกระบวนการโค้ชไปจนจบ เมื่อโค้ชจบแต่ละครั้ง โค้ชและผู้รับการโค้ชจะจัดทำสรุปการโค้ช (Coaching Summary Note) เพื่อเป็นการทบทวนเป้าหมาย สิ่งที่ได้เรียนรู้หรือปัญญาญาณใหม่ๆ (Learning & Insight) และแผนงานที่จะกลับไปลงมือทำ (Action Plan) พร้อมทั้งนัดติดตามผลกันต่อไป
เมื่อทำการโค้ชครบจำนวนครั้ง/ระยะเวลา ตามที่กำหนดในสัญญาแล้ว อาจมีการทำประเมิน 360 องศา อีกครั้งหนึ่งเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง โค้ชและผู้รับการโค้ชจะสรุปการเรียนรู้ร่วมกัน โค้ชรายงานผลให้แก่ Sponsor รับทราบ พร้อมทั้งอาจให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการพัฒนาต่อเนื่องต่อไปสำหรับผู้รับการโค้ชแต่ละราย
บีเล่างานโค้ชผู้บริหารเพียงคร่าวๆ เท่านี้ใน Newsletter ฉบับนี้นะคะ ไม่งั้นอาจจะยาวเกินไป หากท่านใดสนใจอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ยินดีนะคะ สอบถามมาได้ทุกช่องทางการติดต่อของบีค่ะ