“พัฒนา ภาวะผู้นำ” ด้วยทัศนคติแบบโค้ช และทักษะการโค้ช หนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้ ผู้นำมีการพัฒนาตนเอง ขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป : โค้ชบี ขนิษฐา สถาบัน BE Management Coach
ผู้รับการโค้ช (Coachee) ของบีที่เป็น ผู้บริหารองค์กร มีหลากหลายช่วงวัย/เจน ตั้งแต่ เบบี้บูมเมอร์ เจน X และเจน Y และเริ่มมีเจน Millennial มาเป็น ผู้รับการโค้ช อีกเพิ่มขึ้น ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ บริษัทข้ามชาติ บริษัทที่เป็นธุรกิจ SME และ Startup .. ไม่ว่าจะเป็นเจนใด อยู่ในองค์กรแบบใด วัตถุประสงค์ ในการคุยการโค้ชกัน ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่อง “การพัฒนา ภาวะผู้นำ” ต้องการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมบางอย่าง เพื่อมุ่งสู่ภาวะผู้นำ ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
“ภาวะผู้นำ” เป็น “กระบวนการ” ไม่ใช่ตำแหน่ง ซึ่งกระบวนการ ก็หมายถึง การนำพาตนเอง ทีมงาน และองค์กรไปข้างหน้า ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ถ้าจะพูดให้สั้นๆ ง่ายๆ คำว่าผู้นำ ก็คือ การมีอิทธิพลจูงใจ ผู้อื่นได้นั่นเอง
John C. Maxwell นักเขียน และ นักพูดชื่อดังระดับโลก ในด้านการพัฒนาผู้นำ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ The 5 levels of leadership หรือ ภาวะผู้นำ 5 ระดับ มีอะไรบ้าง ลองมาดูกันค่ะ
1. Position โดยตำแหน่ง คนตามคุณ เพราะพวกเขาจำเป็นต้องตาม (Right มีสิทธิหน้าที่)
2. Permission โดยความยินยอมพร้อมใจ คนตามคุณ เพราะพวกเขาต้องการที่จะตาม (Relationship มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน)
3. Production โดยผลงาน คนตามคุณ เพราะพวกเขาเคยเห็นผลงาน ที่คุณสร้างไว้กับองค์กร (Result มีผลงานเป็นที่ประจักษ์)
4. People Development โดยการพัฒนาคน คนตามคุณ เพราะมีสิ่งที่คุณ ทำให้พวกเขาเป็นการส่วนตัว คุณช่วยพัฒนา ให้เขาดีขึ้นทั้งในเรื่องงาน และชีวิตส่วนตัว (Reproduction มีการถ่ายทอด)
5. Pinnacle จุดสูงสุดของ การเป็นผู้นำ คือคนตามคุณ เพราะตัวตนของคุณ และ สิ่งที่คุณแสดงออกมา (Respect ได้รับความเคารพนับถือ)
หากคุณเพิ่งเริ่มเป็นหัวหน้างาน หรือ ผู้บริหารระดับต้น คุณอาจมีแนวโน้ม ที่จะแสดง ภาวะผู้นำ อยู่ในระดับแรก คือ Position หรือ โดยตำแหน่ง คุณอาจจะยังไม่ได้ แสดงศักยภาพของคุณ ให้คนอื่นเห็น และยอมรับ เราคงเคยได้ยินกันว่า ลูกน้อง หรือ ทีมงานหลายคนในหลายๆ องค์กร มักจะบ่นว่า หัวหน้า หรือ ผู้จัดการ ของเค้าว่าไม่ได้เรื่อง ไม่เก่ง ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่ปกป้องลูกน้อง ฯลฯ อย่างนั้นอย่างนี้ และอาจเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ลูกน้องดีๆ อาจไม่อยากอยู่ด้วยได้ มีผลการวิจัย ออกมาว่า ผู้นำในระดับนี้ จะมีอัตราการลาออก ของลูกน้องสูงสุด!
อย่างไรก็ตาม หากคุณอยู่ในระดับ ที่เป็นผู้นำ โดยตำแหน่งแบบนี้ สิ่งที่คุณต้องเร่งทำ ก็คือ การพัฒนาตนเองทั้งในด้าน Functional Competency คือความเชี่ยวชาญ เฉพาะในสายงาน เช่น งานขาย งานการตลาด งานผลิต งานบัญชี ฯลฯ และ Leadership Competency คือความสามารถ ในด้านภาวะผู้นำ ในการบริหารจัดการงานและทีม เพื่อก้าวขึ้นไปอยู่ใน ผู้นำระดับที่สูงขึ้นไป
หนึ่งในเครื่องมือ ที่มีประสิทธิผล ที่จะช่วยให้ ผู้นำมีการ “พัฒนา ภาวะผู้นำ” ของตนเองขึ้นไป อยู่ในระดับสูงขึ้นไปได้ นั่นก็คือ ทัศนคติแบบโค้ช และ ทักษะการโค้ช
ผู้นำสามารถ โค้ชตนเอง และ โค้ชทีมงาน ของคุณให้เก่งขึ้น โดยการ ดึงศักยภาพ ของเขาเหล่านั้น ออกมาใช้อย่างสูงสุด อย่างเต็มใจ และจริงใจ เพื่อสร้างคน ให้ขึ้นมาอยู่ในระดับ 4 และ 5 ไปพร้อมๆ กับ สร้างผลงานให้ทีม และ องค์กร ท้ายที่สุด คุณก็จะได้รับการยอมรับ ว่าเป็นผู้นำในระดับสูงสุด นั่นก็คือ Pinnacle หรือผู้นำที่คนตามคุณ เพราะตัวตนของคุณ และสิ่งที่คุณแสดงออกมา ..หากทำได้อย่างนี้แล้ว สิ่งที่ตามมา ก็คือ ตำแหน่ง ผลตอบแทน การเป็นที่ยอมรับนับถือ และความสุขในการทำงาน ที่สูงขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
แล้วตอนนี้.. คุณเป็นผู้นำในระดับไหนกันคะ?
การเรียนรู้
Coaching Training Program ที่ได้รับอนุมัติหลักสู