การโค้ชผู้บริหารระดับสูง (Executive Coaching) ช่วยลับคมความคิด ขยายมุมมอง ดึงศักยภาพของผู้บริหาร ด้วยการใช้ กระบวนการโค้ช เสริมสร้างความมั่นใจในการวางกลยุทธ์ เป้าหมาย วางแผน แก้ปัญหา เพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ: โค้ชบี ขนิษฐา สถาบัน BE Management Coach
จาก Newsletter ฉบับที่แล้ว ที่บีได้เล่าถึงการทำงานของโค้ชผู้บริหาร ในฉบับนี้ เรามาพูดคุยถึงฝั่ง “ผู้บริหารองค์กร” กันบ้างดีมั๊ยคะ .. ผู้บริหารระดับสูง ขององค์กรชั้นนำระดับโลก และ องค์กรชั้นนำในประเทศไทย ต่างก็มี “โค้ช” ประจำตัวกันทั้งนั้น บางท่านอาจมีโค้ช มากกว่า 1 คนด้วยซ้ำ
การโค้ชผู้บริหารระดับสูง วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่ ก็เพื่อสร้างความพร้อม สำหรับเตรียมตัวรับตำแหน่งที่สูงขึ้นไป หรือไม่ก็ เพื่อเป็นการเพิ่มความเก่ง ให้รอบด้านมากขึ้น ยกระดับความสำเร็จ ให้สูงขึ้นไปอีก
นอกจากการมีโค้ชแล้ว ผู้นำองค์กร จำเป็นต้องพัฒนา และส่งเสริมให้ทีมงาน สร้างผลงานตามเป้าหมาย เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมกันและกัน จึงจะนับว่าเป็น ผู้นำที่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น ผู้นำที่บริหารงาน โดยรู้หลักและวิธีการโค้ช ก็จะส่งผลดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โลกยุคปัจจุบัน ที่คนมีความคิดอิสระมากขึ้น มีค่านิยมทัศนคติ และพฤติกรรม ต่างไปจากอดีตมาก ผู้นำในบทบาทโค้ช จึงมีความสำคัญ ใน การสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) และ การสร้างพันธสัญญา หรือ สัญญาใจ (Commitment)
ไมเคิล เค.ซิมป์สัน ได้บอกถึง “หลักพื้นฐาน ของกระบวนการโค้ช ที่ช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดี” ว่ามี 4 องค์ประกอบ ดังนี้
- มีความเชื่อมั่น – ความสำเร็จของการโค้ชที่ดีควรมาจาก “ภายในสู่ภายนอก” ตัวโค้ชเองต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อใจ ในการตอบคำถาม ให้ข้อมูลและเปิดใจส่งเสริมการออกแบบแผนกลยุทธ์
- ดึงศักยภาพของบุคคลออกมา – การโค้ชจะตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดว่า ทุกคนมีศักยภาพหรือมีจุดแข็งที่พัฒนายกระดับได้ โค้ชที่ดีคือพูดให้น้อย ฟังให้มาก ฟังอย่างตั้งใจ มองให้เห็นศักยภาพ และส่งเสริมให้ผู้รับการโค้ชวางกลยุทธ์เชิงบวก นำไปสู่การลงมือทำ
- การสร้าง “สัญญาใจ” – โค้ชที่คอยป้อนคำถามที่ใช่ ชวนคิดในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ทรงพลัง จะช่วยให้ผู้รับการโค้ช พัฒนาจิตสำนึกความมุ่งมั่น จนเกิดสัญญาใจในระยะยาวขึ้น
- กระตุ้นให้ลงมือทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย – เมื่อผู้รับการโค้ช ตกลงให้สัญญาใจบางอย่าง โค้ชจะกำชับให้ลงมือทำ ยืนหยัด และมีพันธสัญญา เพื่อไม่ให้การโค้ชเป็นเพียงการพูดคุยเล่น เปรียบเหมือนโค้ชช่วยให้ผู้รับการโค้ชจับพวงมาลัย แล้วบังคับรถพาตัวเองไปถึงจุดหมาย(อ้างอิง: หนังสือกฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก, ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล)
ผู้อ่านที่เป็น ผู้บริหาร หรือ ผู้นำองค์กร ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ ได้ผลยังไงมาเล่าให้บีฟังด้วยค่ะ
สำหรับองค์กร หรือท่านใดที่สนใจบริการ การโค้ชผู้บริหารระดับสูง EXECUTIVE COACHING ตามมาตรฐาน การโค้ชสากล (ICF) เพื่อพัฒนาและดึงศักยภาพผู้บริหาร พัฒนาบุคลากร พัฒนาภาวะผู้นำ และ เพื่อพัฒนาองค์กร เพื่อก้าวไปสู่ ความสำเร็จของทุกเป้าหมาย
ซึ่งผู้ทำการโค้ชนั้น เป็นโค้ชที่รับการรับรองทั้งในระดับ Associate Certified Coach (ACC) คือมีประสบการณ์การโค้ช มาไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมง และระดับ Professional Certified Coach (PCC) คือมีประสบการณ์การโค้ชมาไม่ต่ำกว่า 500 ชั่วโมงของ สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (International Coaching Federation – ICF)
การโค้ชแบ่งออกเป็น :
-
การโค้ชผู้บริหารแบบตัวต่อตัว (1-ON-1 EXECUTIVE COACHING) รายละเอียด “คลิก”
เป็นการพัฒนาศักยภาพ ของผู้บริหารรายบุคคล ในรูปแบบการสนทนา แบบตัวต่อตัว (1-on-1 Coaching) โดยใช้ หลักการโค้ช ตามมาตรฐานสากล ของ สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (ICF)
-
การโค้ชแบบกลุ่ม/ทีม (GROUP/TEAM COACHING) รายละเอียด “คลิก”
– การโค้ชกลุ่ม (Group Coaching): ในการโค้ชกลุ่ม เป็นกลุ่มคนที่มาจากหลากหลายหน่วยงาน (ไม่เกิน 15 ท่าน) มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ใช้พลังของกลุ่ม เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางอย่างร่วมกัน
– การโค้ชทีม (Team Coaching): ทักษะและกระบวนการที่ใช้จะคล้ายกับการโค้ชกลุ่ม แตกต่างกันเฉพาะกลุ่มคนที่เข้าร่วม Team Coaching นี้ จะเป็นคนที่มาจากทีมเดียวกัน (ไม่เกิน 15 ท่าน) มีเป้าหมายร่วมกัน
ประชาสัมพันธ์ หลักสูตรสำหรับบุคคลทั่วไป PUBLIC TRAINING
เริ่มการเรียนรู้
อนุมัติหลักสูตรโดย International Coaching Federation หรือ สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (ICF) ในแบบ ACSTH – Approved Coach Specific Training Hours ซึ่งเป็น องค์กรการโค้ช ที่ให้ที่สุดในโลก และ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>