สถาบัน BE Management Coach: Inspiring You to BE the BEST!

โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF ดีอย่างไร? ต่างจากโค้ชทั่วไปยังไง?

โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF ดีอย่างไร? ต่างจากโค้ชทั่วไปยังไง?

💡โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF ดีอย่างไร? ต่างจากโค้ชทั่วไปยังไง?💡

ในยุคที่ใครก็เรียกตัวเองว่า “โค้ช” ได้ง่าย ๆ นหลายคนอาจไม่แน่ใจว่า โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF (International Coaching Federation)ต่างจากโค้ชทั่วไปยังไงกันแน่?
เพราะการโค้ชที่ดี ไม่ใช่แค่คนที่พูดให้กำลังใจเก่ง หรือเป็นนักพูดที่บิวด์คนได้ แต่คือ ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝนอย่างจริงจัง เชื่อในศักยภาพของมนุษย์ และมีกระบวนการที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

ถ้าอยากรู้ว่าโค้ชที่ใช่ควรเป็นยังไง ลองอ่าน 5 ความต่างนี้แล้วเช็กด้วยตัวเองได้เลย ✅

1. โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF ไม่สอน-ไม่แนะนำ แต่ “เชื่อมั่น” ในศักยภาพของผู้รับการโค้ช

❌ โค้ชทั่วไปหลายคนมักผสมบทบาท “ครู” หรือ “ที่ปรึกษา” คอยให้คำตอบหรือวิธีแก้
✅ แต่โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF จะไม่ตัดสิน ไม่สอน ไม่ชี้นำโดยตรง เพราะเชื่อว่าทุกคนมีคำตอบอยู่ในตัวเองแล้ว หน้าที่ของโค้ชคือดึงสิ่งนั้นออกมาให้ชัดที่สุด

2. ฝึกจริงภายใต้การดูแลและมาตรฐานจรรยาบรรณ

❌ โค้ชทั่วไปอาจใช้แค่ประสบการณ์ส่วนตัวหรือเทคนิคที่ไม่เป็นระบบ
✅ แต่โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF จะต้องเรียน ตามชั่วโมงฝึกอบรมที่กำหนด ผ่านการโค้ชจริง มีโค้ชพี่เลี้ยงที่ได้รับการรับรองในระดับ PCC หรือ MCC คอยให้ฟีดแบ็กอย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่าคุณโค้ชได้จริงและมั่นใจได้ว่าทุกการโค้ชจะไม่ละเมิดจรรยาบรรณและให้ผลลัพธ์จริง

3. ใช้กระบวนการและสมรรถนะมาตรฐานระดับโลก

❌ โค้ชบางคนอาจแค่ฟังแล้วให้กำลังใจ หรือใช้วิธีถามตอบแบบไม่มีหลักการ
✅ แต่โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF จะเรียนรู้ศาสตร์สนับสนุนต่าง ๆ เช่น Positive Psychology, Brain-Based Coaching, Emotion Intelligence และเทคนิคการตั้งคำถามที่กระตุ้นสมองให้คิดต่อยอดได้จริง

4. มีจรรยาบรรณ ไม่ใช้พลังงานผิดทาง

❌ อีกจุดสำคัญคือ “จรรยาบรรณ” ซึ่งคนทั่วไปอาจไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรด้วย แต่การโค้ชเป็นงานละเอียดอ่อน มีเรื่องความลับ ความปลอดภัยของข้อมูล
✅ แต่โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF ไม่ข้ามเส้นกลายเป็นผู้ตัดสินชีวิต และจะไม่ก้าวก่ายในสิ่งที่เกินหน้าที่ (อย่างเช่น การให้คำปรึกษาด้านจิตเวช หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ) เพราะหลักของ ICF คือการ “ชวนคิด”

5. พัฒนาเพื่อส่งต่อ ไม่ใช่แค่จบหลักสูตรแล้วแยกย้าย

❌ โค้ชทั่วไปบางคนจบคอร์สแล้วอาจจะแยกย้าย
✅ โค้ชมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ICF และสถาบัน BE Management Coach เราจะอยู่ใน Community ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีเวทีฝึกจริง มีเครือข่าย มีโค้ชพี่เลี้ยง และสามารถต่อยอดเส้นทางวิชาชีพจนก้าวไปสู่ระดับ ACC , PCC หรือ MCC ได้ในอนาคต

เมื่อเข้าใจข้อแตกต่างแล้ว คุณจะเห็นว่าการเลือกเรียนหรือทำงานกับโค้ชมืออาชีพที่ได้มาตรฐาน ICF ไม่ใช่แค่เรื่องของกระบวนการที่ถูกต้อง แต่คือการลงทุนในกระบวนการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์อย่างลึกซึ้งและปลอดภัย

หากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์การโค้ชมืออาชีพตามมาตรฐาน ICF ด้วยตัวเอง สามารถเริ่มต้นหลักสูตรโค้ชมืออาชีพตามมาตรฐาน ICF ของสถาบัน BE Management Coach แล้วคุณจะรู้ว่าการโค้ชที่ดี “ไม่ใช่การให้คำปรึกษา” แต่คือการปลดล็อกศักยภาพในแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง 💫

🎯 หลักสูตรประกาศนียบัตรโค้ชมืออาชีพ 60 ชั่วโมง ตามมาตรฐานสากล (ICF) รุ่นที่ 20 เปิดลงทะเบียนแล้ว

🗓️ เริ่มเรียนวันที่ 2 สิงหาคม 2568

✅ ราคาพิเศษสุด!!! สมัครเป็นสมาชิกสถาบัน BE Management Coach (สมัครฟรี) รับส่วนลดพิเศษเหลือเพียง 59,900 บาท เมื่อลงทะเบียนและชำระภายในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้

💥 สมัครเป็นสมาชิกได้ที่ลิ้งค์นี้ 👉 https://lin.ee/ktxZlIK

👉 ลงทะเบียนสมัครเรียนได้ที่: https://forms.gle/jSXD8sx7riBZEhRX6
📍สมัครในนามนิติบุคคล ลดหย่อนภาษีได้ 200% (ตามข้อกำหนดกรมพัฒน์ฯ)

สามารถดูรายละเอียดหลักสูตรได้ที่ 👉 https://shorturl.at/NQ14n

✨กำลังมองหาหลักสูตรที่จะยกระดับทั้งตัวคุณ ทีมงาน และองค์กรอยู่ใช่ไหม?
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำ ผู้บริหาร HR เจ้าของธุรกิจ ผู้ที่สนใจพัฒนาภาวะผู้นำหรือเตรียมพร้อมสู่การเป็นโค้ชมืออาชีพ—หลักสูตรของเราพร้อมช่วยคุณก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน✨

โดยสถาบัน BE Management Coach ✨

📌 ติดต่อ สถาบัน BE Management Coach
💬 Line OA: https://lin.ee/ktxZlIK
🌐 www.bemanagementcoach.com

#Coaching #CoachingForLeader #ICF #TeamCoaching #หลักสูตรผู้บริหาร #หลักสูตรผู้จัดการ #หลักสูตรพัฒนาผู้นำ #ExecutiveCoaching #LeadershipDevelopment #BEManagementCoach

Share

รับข้อมูลข่าวสารบทความทางอีเมล

เข้าสู่ระบบ

สมัครสมาชิกสำหรับศิษย์เก่า